Customer Reviews

ตั้งแต่วันนั้นเป็นต้นมา
4
หนังสือที่อ่านง่าย ชิวๆ เพลินๆ ไปกับมุมมองของผู้เขียน... อาย กมลเนตร
โดย: Nightingale วันที่เขียนรีวิว: 25 มิถุนายน พ.ศ. 2558

หลังจากที่ได้ติดตาม Instagram ของนักแสดงสาววัยรุ่นที่มีชื่อว่า “อาย กมลเนตร” มาได้นานพอสมควรในมุมเงียบ ทำให้ได้เห็นภาพต่างๆ ที่เธอโพสลง IG ส่วนใหญ่นั้นจะเป็นภาพวิว ท้องฟ้า ต้นไม้ ใบหญ้า สิ่งต่างๆรอบตัว และคนรอบข้าง พร้อมทั้งแคปชั่นบรรยายภาพต่างๆ นานา เราว่ามันบอกกล่าวถึงความเป็นตัวเธอเองได้ในระดับหนึ่งเลย
เราได้ทราบข่าวตามภาพที่เธอได้โพสลง IG ว่า อายจะมีหนังสือเล่มแรกเป็นของตัวเอง เป็นเล่มที่รวบรวมงานเขียนต่างๆ ที่เธอได้เขียนไว้ในคอลัมน์ “มุม มอง เห็น” ของนิตยสาร a day ซึ่งเราก็ได้มีโอกาสเห็นและผ่านตามาบ้าง ดังนั้นเราจึงเล็งๆ ไว้แล้วว่าจะหามาเปิดอ่านดู

เมื่อประมาณปลายเดือน มี.ค. ได้มีโอกาสได้ไปงานสัปดาห์หนังสือแห่งชาติครั้งที่ 43 มา ก็เลยถือโอกาสไปสอยหนังสือเธอมาลองอ่านสักหน่อย หนังสือขนาดกระทัดรัด มีภาพประกอบอยู่ในตอนต้นก่อนเริ่มทุกบท ทำให้ได้ฟิวเหมือนดูภาพจาก Instagram ของเธอไปในตัว เมื่อได้อ่านเนื้อความด้านในแล้ว ก็เหมือนมีคนมาเล่าเรื่องที่พบเจอมาให้ฟัง ภาษาชิวๆ เล่าเรื่องไปเรื่อยๆ ประกอบความคิดเห็น มุมมองส่วนตัวของเธอ ทำให้รู้สึกเหมือนรู้จักกับเธอมากขึ้น ในความคิดของเรา อาย เป็นดาราที่ไม่เหมือนดารา ดูจริงใจ ดูไม่เว่อร์วังอลังการตามสไตล์ซุปตาร์ ในความคิดของเรา เรารู้สึกถึงตัวตนเธอได้ตามความรู้สึกผ่านตัวอักษรที่ได้ถ่ายทอดมา อายมีมุมมองต่างๆ ที่ดีๆ เกี่ยวกับสิ่งรอบตัว เพื่อน และครอบครัว ในบางบทก็บอกเล่าเรื่องราวทั่วๆ ไป ที่เธอได้พบเจอ อาจเป็นมุมเล็กๆ ที่หลายๆ คนอาจได้เจอ แต่ก็ผ่านพ้นไป แต่เธอกลับเอาโมเม้นต์เล็กๆ เหล่านั้นมาเล่าได้อย่างน่ารัก ทำให้เราอ่านแล้วก็ยิ้มๆ ตามไปได้จริงๆค่ะ และในบางบท ตัวหนังสือที่ถ่ายทอดก็ทำให้กระตุ้นต่อมความคิด ให้เราฉุกคิดถึงการใช้ชีวิตในทุกๆวันที่เป็นอยู่ คิดถึงครอบครัวที่เราควรจะใส่ใจให้มากขึ้นขึ้นมาได้

โดยรวมๆ ความเห็นส่วนตัวต่อหนังสือเล่มนี้ คิดว่าเป็นหนังสือที่อ่านง่าย ชิวๆ เพลินๆ ไปกับมุมมองของเธอ หากอยากอ่านหนังสือที่เหมือนเพื่อนมาเล่าเรื่องให้ฟัง เล่มนี้ก็น่าจะตอบโจทย์ได้ดีในระดับหนึ่งค่ะ แต่มีข้อติงนิดหนึ่งตรงที่ว่า อยากให้เพิ่มเรื่องราวใหม่ๆ เพิ่มขึ้นที่นอกเหนือจากบทความที่มีอยู่แล้วในคอลัมน์ของนิตยสาร a day ค่ะ เพราะว่าถ้าผู้อ่านที่เป็นแฟนของ a day อยู่แล้วก็คงคุ้นตากับเรื่องราวพวกนี้มาแล้ว เพียงแต่เล่มนี้ เอามารวบรวมไว้ให้อ่านในทีเดียวค่ะ
ฟันกำไรหุ้นด้วยกราฟ
3
ฟันกำไรหุ้นด้วยกราฟ ขนาดเล่มไม่หนา สอนการดูกราฟกับ Indicator ต่างๆ
โดย: Nightingale วันที่เขียนรีวิว: 16 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

หลังจากที่เริ่มหาข้อมูลเกี่ยวกับการลงทุนในหุ้นได้สักนิดนึงแล้ว เราก็อยากรู้ข้อมูลเกี่ยวกับการดูกราฟ และอ่านกราฟเพื่อที่จะเอาประกอบกับการลงทุนในอนาคต จึงมองหาหนังสือเพื่อศึกษาเพิ่มเติมดู ก็มาเจอ “ฟันกำไรหุ้น…ด้วยกราฟ” เล่มนี้ ขนาดเล่มไม่หนาจนเกินไปที่จะทำให้แอบท้อระหว่างอ่าน

หนังสือเล่มนี้จะมีเนื้อหาหลักๆแบ่งเป็น 4 บท โดยบทแรก “ทำไมหุ้นถึงน่าสนใจ” ก็จะพูดถึงว่าทำไมถึงต้องลงทุนในหุ้น ซึ่งเราชอบตรงที่เขากล่าวว่า เราควรจะเปลี่ยนมุมมองในการเล่นหุ้นใหม่ เป็นคำว่า การลงทุนแทน เพราะว่าความจำกัดความเก่าๆของเรา อาจจะมองว่าการเล่นเหมือนเป็นการเล่นการพนัน มีความเสี่ยง และเปรียบเทียบอัตราเงินเฟ้อในปัจจุบันที่มันวิ่งเร็วกว่าดอกเบี้ยงานฝากธนาคารกับราคาของก๋วยเตี๋ยว เพื่อให้เราเห็นภาพได้ชัดขึ้น และยังพูดถึงรูปแบบของการลงทุนด้วย
ในบทที่ 2 “สร้างแผนการเล่นหุ้นให้เป็นโมเดล” บทนี้จะกล่าวถึง ส่วนประกอบของโมเดลหุ้น สอนให้เราสร้างโมเดลและกรอบการลงทุนให้เหมาะกับตัวเราเอง และบอกถึง Indicator ต่างๆ เช่น MACD, RSI, MA และการ stop loss เพื่อป้องกันการเสียหายไปจนเกินควร ซึ่งเราว่าก็ให้รายละเอียดเกี่ยวกับ indicator นั้นๆได้ดีพอควรเลย มีภาพประกอบเพื่อความเข้าใจด้วย
บทที่ 3 “มาวัดความสามารถของโมเดลกันเถอะ” เป็นส่วนที่แนะนำ และสอนวิธีใช้โปรแกรม AmiBroker เพื่อเป็นตัวช่วยในการวิเคราะห์ของเรา โดยเริ่มสอนตั้งแต่การโหลดโปรแกรม การใช้โปรแกรมเป็นขั้นตอนๆ ซึ่งก็เป็น step by step เข้าใจได้ง่ายพอสมควร ส่วนหลังๆจะเข้าสู่การอ่าน Results และสอน coding เพื่อทำ Optimization โดยเราว่าถ้าไม่ค่อยรู้เรื่องเกี่ยวกับพวกนี้มา ก็อาจจะงงๆ อยู่บ้างว่าอะไรคืออะไร (ซึ่งเราคิดว่าถ้าเราไปลองโหลด AmiBroker มาใช้ดูก็อาจจะเก็ทมากขึ้นก็ได้) แต่ชอบตรงสุดท้ายที่ทำตารางสรุปมาให้ทำให้อ่านง่ายยิ่งขึ้น
บทที่ 4 “เริ่มออกเดินทาง” หลังจากที่มีรายละเอียดภาคทฤษฎีมาแล้ว ต่อก็ต้องเข้าสู่สนามจริง มีบอกรายละเอียดความแตกต่างของการเปิดพอร์ตในบัญชีแต่ละประเภท สรุปโดยรวมแล้ว หนังสือเล่มนี้ก็ถือว่าเป็นที่ให้ความรู้เกี่ยวกับการลงทุนในหุ้นกับเราได้ดีในระดับหนึ่งเลยทีเดียว
New York 1st Time นิวยอร์กตอนแรกๆ
4
สไตล์การเล่าเรื่องสนุก เป็นกันเอง ปล่อยมุกตลอด
โดย: Nightingale วันที่เขียนรีวิว: 15 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

เมื่อครั้งกระโน้น (ก็นานพอสมควรแล้วแหล่ะ) หน้า new feed ในเฟสบุ้ค เราเห็นคนแปะลิงค์ youtube ตาลุงฝรั่งคนนึง ใส่สูทนั่งอยู่ พอเห็นผ่านตาได้สัก 3-4 รอบ ปฏิกิริยาความอยากรู้อยากเห็นขอมนุษย์ก็ได้ก่อตัวขึ้น มือก็เลยลากเม้าส์ไปจิ้มเปิดดู ด้วยความสงสัยว่าทำไมคนถึงได้แชร์คลิปนี้กันเยอะนักนะ ชื่อคลิปก็คือ BKK 1st Time : ตอนโดนคนไทยด่าครั้งแรก ตาลุงนี่ชื่อ Nelson เขาเล่าประสบการณ์ที่พบเจอในเมืองไทย ทำให้คนดูได้หัวเราะหึหึ เพราะ เออ มันจริง แบบนี้แหละเมืองไทย Thailand only (ฮ่าๆๆ) แล้วในตอนสุดท้ายของคลิปก็มาขายของกันดื้อๆ ซึ่งก็คือ หนังสือ New York 1st Time นิวยอร์กตอนแรกๆ เล่มนี้นี่เอง ตอนแรกที่ดูคลิปก็โอเค ชอบนะ ฮาดี แต่ก็ไม่รู้ว่าหนังสือมันจะโอเค เวิร์คอะไรขนาดนั้นหรือป่าว แต่พอมาเห็นหนังสืออีกที ก็แบบเอาว่ะ ลองหน่อยก็ได้ แล้วก็ตัดสินใจสอยมาครอบครอง

ธนชาติ หรือ เบ๊น เป็นผู้เขียนหนังสือเล่มนี้ โดยเขาเล่าเรื่องราวเกี่ยวกับประสบการณ์ที่เขาได้ประสบพบเจอ เมื่อเขาไปเรียนต่อที่นิวยอร์ก เมืองที่มีความหลากหลาย จัดจ้าน แห่งหนึ่งของโลก ซึ่งที่แน่ๆ อะไรๆก็ต้องแปลกแตกต่างไปจากเมืองไทย ทำให้เขาต้องเจอต้องทำอะไรๆหลายๆอย่างครั้งแรกที่นั่น ทั้ง ตัดผมที่เมืองนอกครั้งแรก เห็นหิมะครั้งแรก ดูบาสเอ็นบีเอครั้งแรก เป็นลูกจ้างของฝรั่งครั้งแรก ฝันเป็นภาษาอังกฤษครั้งแรก แฟนต่างชาติคนแรก เจอพายุเฮอร์ริเคนครั้งแรก เป็นต้น ซึ่งบางเรื่องที่ดูเหมือนธรรมดาๆ แต่เราก็เข้าใจนะ ว่าการทำอะไรครั้งแรก มันมักจะมีความกดดันสูง ทั้งตื่นเต้น ความมั่วซั่ว ติดขัด หรือ ความรู้สึกต่างๆนานา โดยเขาสามารถเล่าเรื่องให้มันสนุก โดนใจเราเข้าอย่างจัง อาจจะด้วยภาษา ลูกเล่นที่เขาใช้เขียนอย่างเป็นกันเอง ทำให้เหมือนเพื่อนที่สนิทๆมาเล่าให้ฟัง และที่สำคัญคือ กวน(โอ้ย)มากกก

สรุปแล้วหนังสือเล่มนี้ เราคิดว่าน่าจะทำให้ใครต่อใครที่หยิบมันขึ้นมาอ่านนั้นมีรอยยิ้ม หัวเราะและสนุกสนานกับประสบการณ์ที่เขาเล่าได้ ภาพประกอบสวยงามดี เราชอบสไตล์การเล่าเรื่องของเขา แปลกดีค่ะ สั้น กระชับ ง่ายๆ และแฝงไปด้วยมุกตลอดๆ (บางทีเหมือนจะเล่นมุกซ้ำรัวๆ ไปหน่อย เราก็อยากจะบอก เห้ย เรารู้ทันมุกแกแล้วนะ! แอบเบื่อเบาๆ มุกใหม่ปะพี่ ฮ่าๆ ) แต่บางทีก็ทำให้เราได้แง่คิดเหมือนกันนะ เอาเป็นว่าลองอ่านกันดูแล้วกันนะคะ
5
ลองอ่านงานเขียนของ เบ๊น ธนชาติคนนี้ดู แล้วคุณจะชอบ
โดย: Nightingale วันที่เขียนรีวิว: 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

หลังจากที่เคยอ่าน “New York 1st Time” ของนักเขียนแว่นๆ ที่มีชื่อว่า ธนชาติ ศิริภัทราชัย หรือ เรียกง่ายๆว่า เบ๊น (ชื่อเล่นของเขานั่นแหละ) มาแล้วนั้น พอเขาออกหนังสือเล่มใหม่มา ในชื่อว่า “THE REAL ALASKA อลาสก้าล้านเปอร์เซ็นต์” เราก็ไม่รอช้า รีบสอยหนังสือขนาดกระทัดรัดเล่มนี้มาครอบครอง เนื่องจากติดอกติดใจกับความกวน(ตีน) ที่ส่งผ่านมายังตัวหนังสือได้อย่างไม่ประดักประเดิด

หนังสือเล่มนี้เหมือนเป็นสมุดบันทึกการเดินทางที่เอามาขัดเกลาเพื่อเล่าเรื่องให้เราฟังอย่างสนุกสนานเกี่ยวกับกานเดินทางจำนวน 15 วัน 14 คืน ของเบ๊นและชองอา เพื่อนร่วมทริปตะลุยดินแดนหิมะอันขาวโพลนที่แสนจะหนาวเหน็บ ซึ่งก็คือ อลาสก้านั่นเอง ในระหว่างที่เราอ่านหนังสือเล่มนี้ไป บ่อยครั้งที่เราจะหลุดอมยิ้ม หรือขำเบาๆ ออกมา เพราะเขาได้ใส่มุกต่างๆนานาอยู่เรื่อยๆ เหมือนมีเพื่อนสนิท (รึเปล่าว่ะ) มาเล่าเรื่องให้ฟังยังไงอย่างงั้นแหละ ไม่เหมือนกำลังอ่านหนังสืออยู่ และที่สำคัญ กวนมาก พูดเลย กวนทะลุผ่านตัวหนังสืออกมา ภาษาที่เขาใช้เป็นกันเองมากถึงมากที่สุด อุทานมาที นึกว่าไอ้เพื่อนผู้ชายหัวโจกหลังห้องสมัยมัธยมสบถใส่อยู่ ซึ่งเราว่าก็เป็นเสน่ห์อย่างหนึ่งในการดำเนินเรื่องของเขา สร้างความชิว ความเป็นกันเองที่จะบอกเล่าเรื่องราวให้แก่ผู้อ่านนั่นแหละ มุกที่เราอ่านแล้วอุทานในใจว่า “อ่าว ไอ้นี่นิ!” และ “อ่าว เมิงเอาอีกล่ะ” เป็นครั้งที่2 (ส่วนครั้งที่ 3-4 เริ่มจับไต๋ได้ล่ะ - -‘ ) นั่นก็คือมุกที่ชอบเล่าเรื่องอยู่ดีๆ กำลังไหลรื่น ส่วนเราก็กำลังไหลตามกับเนื้อหาที่เขากำลังเล่า แล้วอยู่ดีๆก็หักมุม บอกกันซึ่งๆหน้าว่า มันเป็นเรื่องที่แต่งขึ้น อืมมม.. วืดค่ะ และอีกอย่างคือความเรียลที่สมกับชื่อหนังสือ ก็คือ ภาพถ่าย ที่ประกอบอยู่ในหนังสือแต่ละบท ซึ่งกระตุ้นต่อมให้เราอยากไปผจญภัย หาอะไรใหม่ๆให้กับชีวิตบ้างเหมือนกัน

หากใครกำลังมองหาหนังสืออ่านง่าย ชิวๆ กวนๆ หน่อย เราว่าลองอ่านงานเขียนของ เบ๊น ธนชาติคนนี้ดู แล้วคุณจะชอบ และอยากเจอหน้า ดีดหูไอ้แว่นนี่สักที (ฮาาา)
เปิดเรดาร์ หาหุ้นเด็ด
3
นักลงทุนมือใหม่สามารถอ่านได้ง่าย และเข้าใจ เกี่ยวกับ app ที่จะช่วยเป็นเรดาร์หาหุ้นให้เรา
โดย: Nightingale วันที่เขียนรีวิว: 14 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

ทุกวันนี้เห็นหลายๆคนหันมาให้ความสำคัญในการลงทุนกันมากขึ้น การลงทุนที่เห็นได้ชัดๆอย่างหนึ่งเลยก็คือ การลงทุนในหุ้น ขนาดเด็กมัธยมปลายบางคนยังเริ่มศึกษาเรื่องหุ้นกันแล้วเลย ไม่สิ.. หลายคนเลยหล่ะ เราก็เป็นคนนึงที่อยากลองเล่นหุ้นดูบ้าง เผื่อจะมีกำไรงอกเงยมามากกว่าดอกเบี้ยอันน้อยนิดในธนาคาร แต่จะคิดถึงกำไรอย่างเดียวก็ไม่ได้ เพราะมีกำไร ก็ต้องมีขาดทุนสิ่ ซึ่งเราก็มีความรู้เกี่ยวกับหุ้นน้อยนิด ไม่เหมาะที่จะบุ่มบ่ามเข้าไปเล่นเลยแน่ๆ เราจึงตั้งใจว่าจะหาความรู้เพิ่มเติมกับการลงทุนชนิดนี้ ก่อนที่จะลงสนามจริง เลยได้หนังสือมา 2-3 เล่ม ซึ่งหนึ่งในนั้นก็คือ “เปิดเรดาร์ หาหุ้นเด็ด”เล่มนี้

หนังสือเล่มนี้ เป็นหนังสือของ Stock2morrow สำนักพิมพ์ที่มีหนังสือว่าด้วยแนวการลงทุนมากมายหลายหลาก เนื้อหาหลักๆ ของหนังสือเล่มนี้จะเกี่ยวข้องกับ App ที่มีชื่อว่า “StockRadars” โดยแอพนี้จะเป็นตัวที่จะคัดกรองและหาหุ้นในเราตามชื่อแอพเลย ซึ่งเราคิดว่าก็น่าจะเป็นตัวช่วยให้เราได้พอควร เนื้อหาในช่วงแรกของหนังสือ นั่นก็คือ Part เปิดโลก StockRadars จะเป็นเนื้อหาเกี่ยวกับแอพนี้ซะเป็นส่วนใหญ่ โดยบอกรายละเอียดตั้งแต่การเริ่มต้น Download จาก Appstore หรือ Googleplay ไปจนถึงการใช้งาน เมนู ฟังก์ชั่นต่างๆ ความเป็นมาของแอพ มีพูดถึง Indicator ต่างๆ ที่นักลงทุนแต่ละลงทุนจะเลือกใช้ตามสไตล์การลงทุนของตัวเอง
และใน Part 2 นั่นก็คือ ตั้งสติก่อนสตาร์ท จะเป็นส่วนที่เนื้อหาเบื้องต้นเกี่ยวกับการลงทุน บอกกล่าวทำไม เราถึงต้องลงทุนในหุ้น การลงทุนในหุ้นแตกต่างจากการลงทุนอื่นๆอย่างไร บอกข้อดี-ข้อเสียของการลงทุนชนิดนั้นๆ ซึ่งในผู้เขียนได้เล่าเปรียบเทียบการลงทุนในหุ้นกับเรื่องการทำอาชีพธรรมดาๆทำให้เรามองภาพการลงทุนได้ง่ายและเข้าใจมากขึ้น มีรายละเอียดเกี่ยวกับการเปิดพอร์ตในแต่ละชนิด และส่วนที่เราชอบอีกส่วนหนึ่งของหนังสือเล่มนี้ก็คือ ได้มีการรวบรวมคำศัพท์เฉพาะที่กลุ่มนักลงทุนในหุ้นมักใช้เรียกกัน เช่น ขายหมู ตกรถ ติดดอย โดนทุบ ว่าคืออะไรด้วย และท้ายสุดมี Index ดัชนีเกี่ยวกับคำศัพท์เฉพาะต่างๆในการเล่นหุ้น ทำให้เราเปิดไปหาเนื้อความเกี่ยวกับคำนั้นได้ง่ายขึ้นอีกด้วย

ในความเห็นส่วนตัว หนังสือเล่มนี้เป็นหนังสือที่นักลงทุนมือใหม่อ่านได้ง่าย และเข้าใจ แต่ติหน่อยนึงตรงที่ว่า เราว่าควรจะสลับเอา part2 มาไว้เป็น part แรกแทน เพราะว่าจะได้ปูพื้นเกี่ยวกับการเล่นหุ้นมาเลย เพราะถ้าหากคนที่ไม่เคยผ่านหรือรู้อะไรมาเลยเกี่ยวกับการลงทุนชนิดนี้ ก็อาจจะสงสัยได้นิดหน่อยว่า ไอ้ศัพท์แปลกๆนี้มันคืออะไร แต่สุดท้ายแล้วเราก็ไปเจออยู่ดีว่าอะไรคืออะไร (มือใหม่ไม่ต้องตกใจค่ะ) ในแต่ละช่วงของหนังสือ จะมีเหมือนคำนิยมของนักลงทุนหลายๆคนเกี่ยวกับตัว App StockReadars แทรกอยู่ และภาพในเล่มสีสันสวยงามดี มีตัวการ์ตูนประกอบบ้าง ทำให้มีสีสัน ไม่น่าเบื่อดีค่ะ หากใครสนใจอยากเริ่มต้นที่จะเรียนรู้เกี่ยวกับการลงทุนชนิดนี้ ก็สามารถอ่านเล่มนี้ได้ค่ะ เป็นหนังสือที่โอเคเล่มหนึ่ง และทำให้ได้รู้จัก Application ดีๆ ฝีมือคนไทยอีกด้วยค่ะ
คิดจะไปดวงจันทร์ อย่าหยุดแค่ปากซอย (A Thinker's Guide to the moon)
5
ไม่ผิดหวังจริงๆ ที่หยิบเล่มนี้มา ที่ได้ยินคนอื่นบอกว่าเล่มนี้ดี มันดีมากๆจริงๆค่ะ
โดย: Nightingale วันที่เขียนรีวิว: 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

หลายต่อหลายคนบอกเราว่าให้ลองอ่านหนังสือเล่มนี้ดูสิ ดีมาก พอเราได้มีโอกาสเห็นหนังสือปกสีน้ำเงินนี้อีกครั้ง จึงหยิบขึ้นมาดู “คิดจะไปดวงจันทร์อย่าหยุดแค่ปากซอย” A Thinker’s guide to the moon เออเห้ย... ชื่อเก๋ดี มีคำโปรยบนปกสมุดว่า “เหมาะกับมนุษย์เดินดินที่มีความฝัน แต่ชอบคิดว่าตัวเองยังพร้อม” เลยนึกถึงตัวเราเอง อืมม...เราก็เป็นมนุษย์เดินดินคนนึงนี่นา โอเค ลองเอาไปอ่านดูแล้วกัน

ไม่ผิดหวังจริงๆ ที่หยิบเล่มนี้มา จากที่ได้ยินคนอื่นบอกว่าดี เราเองก็คิดว่ามันดีอย่างที่เค้าว่าจริงๆค่ะ เล่มนี้เป็นหนังสือที่ให้อะไรหลายๆอย่างกับเรา ผู้เขียนคือ คุณรวิศ หาญอุตสาหะ ซึ่งเป็นทายาทของผงหอมศรีจันทร์ และได้เขานี่แหละมารีแบรนด์และปรับปรุงโครงสร้างให้บริษัทใหม่ โดยหนังสือจะแบ่งออกเป็น 3 ส่วนใหญ่ๆด้วยกัน ในส่วนแรก คือ จะหยุดอยู่แค่ปากซอย? ซึ่งในส่วนนี้จะเป็นเรื่องราวและประวัติความเป็นมาของบุคคลต่างๆที่มีชื่อเสียง และประสบความสำเร็จ ในแต่ละเรื่องราวของแต่ละคนนั้น ได้เล่าเรื่องราวมาก่อน แล้วค่อยมาเฉลยตอนท้ายว่าเขาคนนี้เป็นใคร โดยส่วนตัวแล้ว เราชอบในส่วนนี้นะ ได้รู้จักความเป็นมาของบุคคลหลายๆคนทั่วโลกว่า กว่าเขาจะมีชื่อเสียง ประสบความสำเร็จขนาดนี้ เขาต้องผ่านอะไรมาบ้าง เส้นทางไม่ได้โรยด้วยกลีบกุหลาบ เช่น กว่าจะเป็น Walt Disney ที่คนรู้จักกันทั่วโลกได้ เขาต้องล้มมาไม่รู้กี่ครั้ง ล้มซ้ำๆขนาดนั้นยังลุกขึ้นมาได้ เราเองเรายังทึ่ง และ Nick Vujicic ชายผู้ที่ไม่มีทั้งแขนและขาเลยสักข้าง แต่เขากลับยืนหยัดและให้กำลังใจแก่คนทั่วโลกได้ เป็นต้น
ในส่วนที่ 2 คือ เตรียมตัวไปดวงจันทร์ เป็นส่วนที่มีทั้งเรื่องราวต่างๆ และแนวคิดจากผู้เขียนหลายๆอย่าง ส่วนที่ชอบที่สุดของส่วนนี้ คือบทที่22 ทำ prime time ให้ prime เราว่ามันทำให้เราได้ฉุกคิดว่าควรที่จะต้องเปลี่ยนทัศนคติในการใช้ชีวิตเสียใหม่ ควรใช้เวลา prime time ให้คุ้มและมีประสิทธิภาพมากที่สุด ปรับเวลาการใช้ชีวิตให้ดีขึ้นและคุ้มค่าขึ้นบ้าง เพราะหลายๆ ครั้งเราหลงลืมไปว่าสิ่งที่มีค่ามากที่สุดก็คือเวลา และถ้ามันผ่านไปแล้วก็ผ่านไปเลย เรียกกลับคืนมาก็ไม่ได้
ในส่วนที่ 3 คือ ทางลัดสู่ดวงจันทร์ เป็นส่วนสุดท้าย ที่บอกเล่าถึงสิ่งสำคัญที่บางคนมองเห็นและกล้าที่จะลงมือทำ จนประสบความสำเร็จ จะเรียกว่า กลยุทธ์ของบริษัทหรือจุดขายก็ว่าได้

เอาเป็นว่าอยากให้ทุกคนลองอ่านกันค่ะ เป็นหนังสือที่ดีมากๆเล่มหนึ่ง ให้ข้อคิดแก่ชีวิต อ่านไม่ยากเลย อ่านแป๊บเดียวเพลินๆก็จบแล้ว แต่ได้แรงบันดาลใจมาเต็มเปี่ยม การจัดวางเพจ หน้ากระดาษ สีสันสวยงามดีค่ะ
Perfect Match แฟนฉัน รับประกันความเพอร์เฟ็กต์ (ชุด Ugly Duckling)
5
สนุกมากกก May112 ไม่เคยให้ทำผิดหวังจริงๆค่ะ
โดย: Nightingale วันที่เขียนรีวิว: 13 พฤษภาคม พ.ศ. 2558

เมื่อวันก่อนได้มีโอกาสเห็น Trailer เรื่อง Ugly Duckling Series รักนะเป็ดโง่ ที่จะออกอากาศทางช่อง GMM25 เร็วๆนี้ ซึ่งซีรีย์เรื่องนี้ สร้างมาจากหนังสือนิยายของแจ่มใสนั่นเอง เลยกระตุ้นต่อมให้อยากกลับมาอ่านนิยายแนวนี้อีกครั้ง หลังจากห่างหายไปนาน (ฮ่าๆ) เลยไปควานหาหนังสือเล่มนี้มาได้สำเร็จ ซึ่งนิยายเรื่องนี้เป็นหนึ่งในชุด Ugly Duckling ของ Jamsai Love Series เห็นชื่อผู้เขียนก็ยิ่งทำให้อยากอ่านมากขึ้น May112 นั่นเอง ซึ่งเราชอบหนังสือที่เขาเขียนเป็นนัมเบอร์วันของแจ่มใสเลยก็ว่าได้ เขียนได้สนุกมากกก

เนื้อเรื่องคร่าวๆก็มีอยู่ว่า จูเนียร์ สาวไฮโซบ้านรวยมากถึงโคตรมาก มีทุกอย่างครบ หน้าตาก็สะสวย แต่ดันโดนลูกยุของเพื่อนๆในแก๊งค์ให้ไปทำศัลยกรรมเพิ่ม เธอเลยไปร้อยไหม แต่ดันซวยแจ๊คพอตแตก หน้าติดเชื้ออย่างแรง จนหน้าเยินเป็นผี พอหน้าเละ เพื่อนก็เฟดตัวหนี แฟนที่รักแสนรักเธอก็ตีตัวออกห่าง เธอไม่รู้จะทำอย่างไร เลยตัดสินใจไปเรียนมหาลัยและรักษาหน้าที่พิษณุโลก แต่ไปในนามของหลานน้าอ้อย พี่เลี้ยงคนสนิทของเธอ ต้องเปลี่ยนวิถีชีวิตจากคนหนูไฮโซเป็นคนเดินดินธรรมด๊าธรรมดาเข้าไปอยู่หอ ใช้ชีวิตในรั้วมหาวิทยาลัย แล้วเธอก็มีโอกาสได้รู้จักพี่เสือ หนุ่มที่ “โคตรหล่อ โคตรเท่ โคตรโหด โคตรปากหมา โคตรฮาและโคตรจน” และโชคชะตาก็ดันให้เธอได้เขาเป็นพี่รหัสอีกด้วย


พอได้อ่านแล้ววางไม่ลงเลย รวดเดียวจบ สนุกมากค่ะ พี่เสือก็แบบว่าหล่อมาก ใจหล่ออีกต่างหาก ด่าคนอื่นให้เรียบ ตอนที่คนอื่นมาว่าน้องจูว่าหน้าหนอน หน้าผี แต่ก็แรดมากเช่นกัน (แบบว่ารู้ตัวว่าหล่อจนสาวกรี้ดไง) พูดจาได้แบบกวนโอ้ยสุดๆ ห้าวๆ ดิบๆ ไม่กลัวใครไฟท์เป็นไฟท์ แต่เลิฟนางเอกมาก ส่วนนางเอกก็ใสๆ อินโนเซนต์ ซื่อมาก ซื่อซะจนพี่เสือหลงรักหัวปักหัวปำ ตอนท้ายๆ มีหักมุมด้วยค่ะ ส่วนตัวชอบบทส่งท้ายของพี่เสือมาก อยากจะเจอซัมวันแบบพี่เสือบ้างงง (เพ้อเจ้อสุดๆ)
เรื่องนี้ถึงแม้จะเป็นนิยายวัยรุ่นกุ๊กกิ๊ก แต่เราว่ามันให้แง่คิดดีนะ สะท้อนอะไรได้หลายๆอย่างในสังคม ณ ปัจจุบัน เช่น ศัลยกรรมจนลามเป็นเสพติด สวยบล๊อคเดียวไปกันซะหมด, การคบกันแค่เพียงเปลือก สนใจแต่หน้าตาทางสังคม และวัตถุ พอมีปัญหาก็ถีบหัวส่งไม่ใยดี, การรู้จักใช้เงิน เป็นต้น อยากให้ได้ลองอ่านกันค่ะ แนะนำเลยเรื่องนี้ สนุกมากๆ
EVERYDAY STORY
4
หนังสือเล่มสีฟ้าขนาดกระทัดรัด พกพาง่าย กับ24เรื่องราวที่เหมือนมีรุ่นพี่มาเล่าให้ฟัง
โดย: Nightingale วันที่เขียนรีวิว: 28 เมษายน พ.ศ. 2558

หนังสือเล่มสีฟ้าขนาดกระทัดรัด พกพาง่ายเล่มนี้ที่ชื่อว่า “Everyday Story” เป็นผลงานเขียนของคุณโหน่ง วงศ์ทนง ชัยณรงค์สิงห์ บรรณาธิการหนังสือสุดแนวอย่าง a day ที่ได้รวบรวมบทความของคอลัมน์ในหน้าสุดท้ายของ a day BULLETIN LIFE มาไว้ด้วยกัน แบ่งไว้เป็น 24 เรื่อง ขนาดกำลังดี

เปิดมาหน้าแรก แค่ประโยคสั้น “ทุกวันคือชีวิต ชีวิตคือทุกวัน” เรารู้สึกว่ามันเรียล ประโยคตรงๆนี้ คือมันใช่ เพราะอย่างที่คุณโหน่งเขียนไว้ ชีวิตเราเริ่มต้นทุกวันตั้งแต่ลืมตา แล้วมันก็แตกต่างกันออกไปในแต่ละคน Everyday has its own story หนังสือเล่มนี้เป็นเรื่องราวที่คุณโหน่งได้บอกเล่าเรื่องราวของตนเองที่ได้พบได้ผ่านมาในช่วงชีวิต มีทั้งเรื่องสมัยในวัยเด็ก เรื่องราวทั่วไปในชีวิตประจำวัน ทั้งสุข ทั้งไม่สุขบ้าง ซึ่งได้สอดแทรกแง่คิดเล็กๆ ในการดำเนินชีวิตไปในตัวด้วย ในความเป็นจริงในชีวิตของเราๆที่พบที่เจอทุกวัน เช่น ในบท ‘ถ้ายังบินไม่เป็นก็เดินไปก่อน’ ได้พูดถึงเรื่องการตรงต่อเวลา ที่เป็นสิ่งเล็กๆที่เราควรให้ความสำคัญกับมัน และการที่เราจะทำอะไรสักอย่าง ควรต้องใส่ความมุ่งมั่น ความพยายามลงไป รู้จักอดทนและพัฒนาตนเองเสมอๆ และในบางบทที่อ่าน เรารู้สึกว่าอ่านแล้วทำให้เรายิ้มๆไปกับมันได้ และทำให้ฉุกคิดบางสิ่งบางอย่างที่เราละเลยไป
หนังสือเล่มนี้ ใช้ภาษาเขียนที่ตรงๆเข้าใจง่าย ให้ความรู้สึกเหมือนมีรุ่นพี่ที่รู้จักมาเล่าเรื่องราวเรื่องโน้นเรื่องนี้ให้ฟัง อ่านแล้วชอบนะคะ อ่านไปยิ้มๆไปบ้างก็มี แต่ตินิดนึงตรงขนาดของเล่มหนังสือกับราคาไม่ค่อยสัมพันธ์กันเท่าไหร่ เพราะเรารู้สึกว่าราคาค่อนข้างสูงไปนิดนึง (220 บาท) สำหรับหนังสือเล่มขนาดเท่านี้ นอกนั้นโดยรวมเราถือว่าโอเคเลยค่ะ ชอบนะ เป็นหนังสืออ่านง่าย สบายๆ น่ารักเล่มนึงเลยละค่ะ
ตะลุย ฮอกไกโด
3
ไกด์บุ้คเที่ยวฮอกไกโด ภาพสวย มีตัวอย่างทริปอยู่ท้ายเล่ม
โดย: Nightingale วันที่เขียนรีวิว: 24 เมษายน พ.ศ. 2558

หากพูดถึงหนังสือไกด์บุ้คเกี่ยวกับประเทศญี่ปุ่นในบ้านเรานับว่ามีให้เลือกมากมายหลายเล่มขึ้นทุกๆวัน คงเป็นเพราะประเทศญี่ปุ่น เป็นประเทศที่มีมนต์เสน่ห์ในตัวเองที่รวมเอาทั้งวัฒนธรรม แฟชั่น เทคโนโลยี และธรรมชาติที่สวยงามมารวมกันไว้ได้อย่างลงตัว จึงไม่แปลกที่หากใครได้ลองไปเที่ยวญี่ปุ่นแล้วก็ต้องอยากไปอีกครั้ง

หนังสือเล่มนี้ จะบอกเล่าถึงเกาะทางเหนือสุดของญี่ปุ่น อย่างฮอกไกโด โดยหนังสือจะแบ่งออกเป็นเมืองๆ มีการสอดแทรกเล่าถึงประวัติความเป็นมาของเมือง และรายละเอียดของสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ของเมืองนั้นๆ วิธีเดินทาง อีกทั้งยังได้แนะนำร้านอาหารต่างๆ และราคาโดยประมาณไว้อีกด้วย หนังสือเล่มนี้ พิมพ์สีตลอดเล่ม อ่านง่าย มีทั้งภาพที่เป็นฤดูหนาวแบบหิมะปกคลุม และฤดูอื่นสลับๆกันไป ทำให้นึกภาพตามออกได้ และมีแผนที่โดยรวมของเมืองประกอบอยู่

ส่วนรายละเอียดการเดินทางไปที่ฮอกไกโด เอกสารการเดินทาง การเตรียมตัวก่อนเดินทางให้เหมาะกับสภาพอากาศของทั้ง 4 ฤดู ก็มีบอกไว้อย่างครบถ้วน อยู่หลังบทท่องเที่ยวเมืองต่างๆ ซึ่งจะต่างจากเล่มอื่นๆ ที่นำมาเกริ่นขึ้นต้นหนังสือก่อนที่จะเล่าถึงเมืองและสถานที่ท่องเที่ยว ท้ายเล่ม มีตัวอย่างการจัดโปรแกรมไว้เป็นตัวอย่างสำหรับการท่องเที่ยวในฤดูต่างๆ อีกด้วย

โดยส่วนตัวแล้ว หนังสือเล่มนี้ถือว่าใช้ได้พอสมควรกับการเล่าเรื่องเมือง และบอกถึงรายละเอียดสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ซึ่งก็สามารถเอามาจัดโปรแกรมไปเที่ยวได้ทั้ง 4 ฤดู ควรไปเที่ยวช่วงไหน และจะเจออะไรบ้าง แต่ยังขาดที่พัก ที่ควรจะมีแนะนำบ้าง
3
เที่ยวไม่ง้อทัวร์ เล่มเดียวก็เอาอยู่ เป็นข้อมูลประกอบการจัดทริปได้
โดย: Nightingale วันที่เขียนรีวิว: 24 เมษายน พ.ศ. 2558

เมื่อปีที่แล้ว เราได้มีโอกาสไปเรียนที่ประเทศนิวซีแลนด์ โดยหลังจากเรียนภาษาคอร์สสั้นๆจบ ก็ได้เวลาตะลุยโลกกว้าง ชีวิตนี้จะได้คุ้มๆ ซึ่งก็ได้วางแพลนเอาไว้ล่วงหน้าแล้วว่าถ้าเรียนเสร็จ จะไปเที่ยวต่อให้ได้ ก่อนไปก็มีการเตรียมตัว หาข้อมูลต่างๆ เพื่อจัดทริป และก็ได้หนังสือที่ซื้อจากเมืองไทย "เที่ยวไม่ง้อทัวร์ ตีตั๋วตะลุยนิวซีแลนด์ (เกาะเหนือ-เกาะใต้)" เล่มนี้มาประกอบการจัดทริป และพกติดตัวไปด้วย ซึ่งก็เป็นประโยชน์มากพอตัวเลยค่ะ เพราะทริปนี้ตั้งใจจะเที่ยวเอง ไม่ง้อทัวร์ตามชื่อหนังสือเลยค่ะ

ในหนังสือมีรายละเอียดของสถานที่เที่ยวต่างๆ แลนด์มาร์กที่สำคัญของนิวซีแลนด์ทั้งเกาะเหนือและเกาะใต้ มีแนะนำร้านอาหาร และที่พัก ถือว่าครอบคลุมพอสมควร เพราะมีบอกรายละเอียดของตำแหน่งสถานที่ ราคาโดยประมาณที่จะต้องจ่าย เวลาเปิด-ปิดของสถานที่ท่องเที่ยวต่างๆ ทำให้เราสามารถวางแผนเที่ยว จัดตารางเวลาคร่าวๆได้ ภาพประกอบในหนังสือ เป็นภาพพิมพ์สี สถานที่ต่างๆ ถ่ายออกมาได้สวยใช้ได้ ทำให้อยากตามเก็บทุกสถานที่เลยค่ะ

เมื่อได้เวลาเดินทางจริงๆ ก็ไม่ผิดหวังจริงๆ เพราะความเป็นธรรมชาติ และวิวของที่นี่ กินขาดจริงๆ ค่ะ สวยมากกกกก ในวันที่แดดดี ฟ้าเป็นฟ้า หญ้าเป็นหญ้า สวยเกินจะบรรยาย ต้องมาเห็นด้วยตาจริงๆค่ะ ใครที่ชอบการท่องเที่ยว รักธรรมชาติ ไม่ควรพลาดประเทศนี้ เอาหนังสือเล่มนี้เป็นหนึ่งในไกด์บุ้ค อ่านลายละเอียดต่างๆ แล้วจัดทริปได้เลยค่ะ ไปเที่ยวเองไม่ง้อทัวร์ก็ไม่ได้ยากอย่างที่คิด ☺
แผนร้ายร่ายรัก
4
เนื้อเรื่องสนุก อ่านเพลินๆ
โดย: Nightingale วันที่เขียนรีวิว: 08 มีนาคม พ.ศ. 2558

สำหรับเรื่องแผนร้ายร่ายรัก เป็นผลงานของ ลินิน โดยนางเอกของเรื่องก็ใช้ชื่อเดียวกันกับนามปากกาผู้เขียนเลยค่ะ ลินิน หรือว่า ลิลลี่ นั้น เป็นสาวสวยมั่น ลูกนักธุรกิจ แต่ไม่อยากเดินตามเส้นทางที่พ่อได้วางเอาไว้ อยากเป็นเหยี่ยวข่าวสายอาชญากรรมตามความใฝ่ฝั่นและตามสายการเรียนที่ได้เรียนมา แต่ก็ไม่ค่อยเวิร์คเท่าไหร่ เพราะเธอไม่เคยหาข่าวได้เป็นชิ้นเป็นอันเลยสักที จนเธอได้จับพลัดจับผลูเจอ พีท พีรพล ซุปตาร์สุดฮอตแห่งยุคที่ดังทั้งในและนอกประเทศอย่างเกาหลี สาวๆกำลังคลั่งไคล้ตามกรี้ดเป็นพรวน แต่ด้วยความที่เขามีโลกส่วนตัวสูง เข้าถึงยาก จึงไม่ค่อยมีนักข่าวคนไหนหาข่าวได้เท่าไหร่ เมื่อเอาดีทางสายอาชญากรรมไม่ได้ เธอจึงคิดที่จะพิสูจน์ตัวเองด้วยการหาข่าวของพีทมาทำข่าวให้ได้ เพื่อที่จะได้ทำงานนี้ต่อและไฟท์ติ้งกับเพื่อนร่วมงานที่ชิงดีชิงเด่นกันมาตลอด แล้วการปลอมตัวเป็นแม่ครัว หน้าตาเฉิ่มเบอะ ในนาม “เหยิน” ก็เป็นทางออกเดียวที่เธอจะได้เข้าไปหาข่าวของพีทอย่างเอ็กซ์คลูซีฟที่สุด...

ในคาแร็คเตอร์ของพระเอกนั้นทำให้ชวนกรี้ดมาก แบบว่าจินตนาการถึงดาราหล่อๆ อะไรอย่างงั้น แถมกวนหน่อยๆ รักครอบครัว ชวนให้อยากเป็นลินินขึ้นมากระทันหัน (อิอิ) ส่วนในตัวของนางเอก ผู้เขียนก็ผูกเรื่องในนางเอกเอาตัวรอดได้ตลอดๆ เก่งเว่อร์ ไหลไปได้เรื่อยๆ ปลาไหลใส่สเก็ตยังเรียกพี่ ส่วนตัวชอบตรงที่เนื้อเรื่องดำเนินไปให้เห็นถึงความผูกพันของทุกคนในบ้าน ในระหว่างที่นางเอกปลอมตัวเข้าไปอยู่ในฐานะเหยิน แม่ครัวบ้านนอกๆ ทุกคนต่างรักและเอ็นดูนางทั้งนั้น ซึ่งก็คงทำให้เสียความรู้สึกจริงๆ เมื่อสุดท้ายแล้วต้องรู้ความจริงว่าเหยินปลอมตัวมาเพื่อหาข่าว

สำหรับเล่มนี้ เป็นนิยายที่มีเนื้อเรื่องชวนติดตาม เพราะอยากรู้ว่าเรื่องราวต่อไปจะเป็นอย่างไร พระเอกจะจับผิดนางเอกยังไง แล้วนางเอกจะทำโป๊ะแตก หลุดให้พระเอกจับได้ตอนไหน แถมตัวนางเอกก็โดนพระเอกลากมาเป็นข่าวกับเขาด้วยซะเอง ทั้งๆ ที่ตัวเองไปหาข่าวของเขาแท้ๆ สนุกดีค่ะ อ่านได้เรื่อยๆ แทบไม่อยากวางเลย แต่ส่วนตัวตินิดหนึ่ง ตรงที่ว่าพระเอกรักนางเอกง่ายไปหน่อย พระเอกน่าจะได้เจอตัวนางเอกที่เป็นตัวของลินินจริงๆ มากกว่านี้หน่อย เพราะเหมือนได้เจอกันจริงๆ ไม่กี่ครั้งเอง ส่วนใหญ่จะเจอนางเอกในฐานะของเหยินมากกว่า แม้จะสงสัยว่าทั้ง 2 คน เป็นคนคนเดียวกันก็เถอะ ส่วนนางเอกก็ไม่แปลกอะไร ถ้าจะตกหลุมรักพระเอก เพราะได้ปลอมตัวเข้าไปในบ้าน อยู่ใกล้ชิดกับพระเอก และได้เห็นตัวตนที่แท้จริงว่าเป็นคนอย่างไร แต่รวมๆแล้ว เป็นเรื่องที่อ่านสนุก เพลินมากๆ เรื่องนึงเลยค่ะ ลองอ่านกันดูนะคะว่าสุดท้ายแล้วพระ-นางจะเคลียร์กันยังไง เมื่อในที่สุดแล้วพระเอกก็ต้องรู้ความจริง
Present Perfect เพราะวันนี้...ดีที่สุดแล้ว
5
แค่ชื่อหนังสือก็เก๋แล้ว PRESENT PERFECT เพราะวันนี้...ดีที่สุดแล้ว อ่านเพลิน ให้แง่คิดดีๆกับชีวิต
โดย: Nightingale วันที่เขียนรีวิว: 01 มีนาคม พ.ศ. 2558

เล่มนี้เปิดตัวที่แรกที่งานหนังสือแห่งชาติ ครั้งที่ 19 วันนั้นได้มีโอกาสไปเดินที่งานหนังสือด้วยค่ะ แล้วก็ได้เดินผ่านบูธของ a day แล้วเห็นคนซื้อเล่มนี้เยอะมาก ไม่ว่าจะถือเล่มนี้เล่มเดียวเดี่ยวๆ หรือไม่ว่าจะมีเล่มอื่นที่เลือกแล้วอยู่ในมือแต่ส่วนใหญ่ก็จะมีเล่มนี้รวมอยู่ด้วย เป็นหนังสือขายดีประจำบูทของ a day เลยก็ว่าได้ค่ะ แล้วก็ยังติดอันดับหนังสือขายดีตามร้านหนังสือทั่วไปอีกด้วยค่ะ คิดว่าหนึ่งในเหตุผลที่ทำให้หนังสือติดอันดับ best seller นั้น คงอาจจะเป็นเพราะผู้เขียนเป็นดารานักแสดง คือ คุณฌอห์ณ จินดาโชติ นั่นเอง
หนังสือเล่มนี้เป็นความเรียง เล่มขนาดไม่ใหญ่มาก บอกเล่าเรื่องราวต่างๆ ในชีวิตที่เขาได้พบเจอ ความรู้สึก ข้อคิดดีๆ และแง่มุมต่างๆ ส่วนตัวแล้วก็ได้ติดตามผลงานของคุณฌอห์ณมาบ้าง แต่ก็ไม่ได้ถึงขั้นเป็นเอฟซีอะไรขนาดนั้น ในตอนแรกก็ไม่ได้คาดหวังอะไรมากมายกับหนังสือเล่มนี้ แต่แบบว่า เอาซะหน่อย ลองซื้อไปอ่านดูก็ได้ กะจะเอาไปอ่านเพลินๆ (เห็นคนซื้อเยอะ เลยตามน้ำค่ะ ฮ่าๆ) แต่พอได้อ่านหนังสือแล้ว แบบว่าเกินคาดค่ะ กลับรู้สึกดีมาก อ่านรวดเดียวจบเลย และทำให้ชอบในตัวของคุณฌอห์ณมากขึ้นเลยค่ะ อาจจะด้วยความคิดต่างๆ ที่ส่งผ่านตัวหนังสือ ทำให้อ่านไปแล้วรู้สึกได้ว่าเขาตั้งใจที่จะเขียน ตั้งใจที่จะถ่ายทอดมันออกมาจริงๆ

สรุปแล้ว โดยส่วนตัวชอบและรู้สึกดีกับหนังสือเล่มนี้มาก ยกไว้ให้เป็นเล่มโปรดอีกเล่มได้เลย ถ้าไม่มองและติดภาพในฐานะที่เขาเป็นนักแสดงหรือพิธีกรแล้วหละก็ นับได้ว่าเป็นนักเขียนคุณภาพที่เขียนหนังสือดี และถ่ายทอดออกมาผ่านตัวหนังสือได้ดีอีกคนเลยก็ว่าได้
แค่ชื่อหนังสือก็เก๋แล้ว PRESENT PERFECT เพราะวันนี้...ดีที่สุดแล้ว อยากให้ได้ลองอ่านกัน เป็นหนังสือที่อ่านเพลิน สร้างแรงบันดาลใจ ให้มุมมองและแง่คิดดีๆแก่ชีวิต แนะนำค่ะ
www.batorastore.com © 2024